เหล็กแผ่นสังกะสี (Hot-Dip Galvanized Steel Sheet) เกิดจากการนำเหล็กกล้าชนิดแผ่น ไปผ่านกระบวนการเคลือบสังกะสีทั้ง 2 หน้า โดยวิธีการจุ่มร้อน ตามมาตรฐาน JIS G3302 ซึ่งการนำไปกระบวนการดังกล่าว ทำให้เหล็กชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดสนิม ทาสีติด ความสามารถในการบัดกรีที่ดี มีความทนทานและอายุการใช้งานที่มากขึ้น แต่ความสามารถในการเชื่อมแบบต่อเนื่องจะลดลง โดยเป็นผลมาจากสังกะสีที่ติดกับแท่งอิเล็กโทรดในขณะทำการเชื่อม เนื่องจากจุดหลอมเหลวของชั้นสังกะสีมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าชั้นเหล็กกล้า
ลักษณะของเหล็กแผ่นสังกะสีจะมีผิวเรียบเป็นลายดอกสีเงินทั้งแผ่น ลายดอกบนแผ่นขนาดอาจแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับความหนาของแผ่นเหล็ก ขนาดมาตรฐานของเหล็กชุบสังกะสีมีขนาดอยู่ที่ 4x 8 ฟุต และมีความหนาอยู่ที่ตั้งแต่ 0.35-3.0 มิลลิเมตร
COLD ROLLED STEEL SHEETS เหล็กแผ่นขาว
เหล็กแผ่นขาว (Cold Rolled Steel Sheet) เกิดจากการนำเหล็กแผ่นดำไปผ่านกระบวนการรีดเย็น หรือ การรีดที่ไม่ได้ใช้ความร้อนในการเผา โดยลักษณะของเหล็กแผ่นขาว มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลากหลายขนาด และความหนา ซึ่งความหนาของเหล็ก มีตั้งแต่ 0.35 – 3.40 มิลลิเมตร ผู้ใช้ควรเลือกใช้ขนาดและความหนาให้เหมาะสมกับลักษณะของงานนั้นๆ
CHECKERED PLATES เหล็กแผ่นลาย
เหล็กแผ่นลาย (Checkered Plate) มีชื่อเรียกที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ตีนไก่, ตีนเป็ด, แผ่นลาย หรือเหล็กลายดอก ซึ่งเหล็กแผ่นลาย เกิดจากการนำเหล็กกล้าเนื้อแกร่งนำไปเข้าสู่กระบวนการหล่อ หรือ นำไปผ่านกระบวนการรีดร้อน
ลักษณะเหล็กเผ่นลาย มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลวดลายนูนคล้ายเมล็ดข้าวที่นูนขึ้นมาจากแผ่นเหล็ก มีหลายขนาดและความหนา ซึ่งความหนาโดยทั่วไปมีตั้งแต่ 2 – 9 มิลลิเมตร ซึ่งคุณสมบัติเหล็กเผ่นลาย คือ ความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อแรงเสียดทาน นอกจากนี้ เหล็กแผ่นลายยังช่วยป้องกันการลื่น และการเกิดน้ำขังได้ดี
HOT ROLLED STEEL SHEETS เหล็กแผ่นดำ
เหล็กแผ่นดำ (Hot Rolled steel sheets and plates) เป็นเหล็กที่เกิดจาการนำเหล็กม้วนดำมาตัดตามขนาดที่ต้องการ ลักษณะของเหล็กแผ่นดำ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีผิวที่เรียบ ซึ่งขนาดที่นิยมใช้กันคือ 4’×8′ (ฟุต), 5’×10′ (ฟุต) และ 5’x20′ (ฟุต) ส่วนเกรดเหล็กแผ่นดำที่เป็นที่นิยมและจัดจำหน่ายโดยทั่วไป ได้แก่ เกรด SS400
CARBON STEEL ROUND PIPE ท่อเหล็กกลม
เหล็กท่อกลมดำ (Carbon Steel Round Pipe) มีหลากหลายชื่อเรียก ไม่ว่าจะเป็น แป๊ปกลม หรือแป๊ปดำ ลักษณะของเหล็กท่อกลมดำ จะมีหน้าตัดเป็นวงกลม ด้านในตัวเหล็กโปร่ง มีผิวเรียบเนียน ไม่ขรุขระ มาตรฐานทั่วไปและมาตรฐานมอก.107-2561 เริ่มต้นที่ขนาด 21.70 มิลลิเมตร และความยาวมาตรฐาน 6 เมตร
CARBON STEEL RECTANGULAR PIPE ท่อเหล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เหล็กกล่องแบน (Carbon Steel Rectangular Pipe) หรืออาจเรียกว่าเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า แป๊ปแบน ท่อแบน หรือ เหล็กกล่องไม้ขีด เหล็กกล่องแบนจัดเป็นเหล็กรูปพรรณรีดเย็นชนิดหนึ่ง มีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านในตัวเหล็กโปร่ง แต่ละมุมทำมุม 90 องศา มีผิวเหล็กเรียบเนียน ไม่ขรุขระ มาตรฐานทั่วไปและมาตรฐานมอก.107-2561 เริ่มต้นที่ขนาด 50×25 มิลลิเมตร และมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร
CARBON STEEL SQUARE PIPE ท่อเหล็กรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม (Carbon Steel Square Pipe) มีหลากหลายชื่อเรียกเช่น เหล็กแป๊ปเหลี่ยม แป๊ปโปร่ง เหล็กท่อสี่เหลี่ยม จัดเป็นเหล็กรูปพรรณชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะหน้าตัดเท่ากันทั้ง 4 ด้าน โดยที่หน้าตัดทุกมุมจะทำมุม 90 องศาและมีด้านในที่โปร่ง มาตรฐานทั่วไปของเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส เริ่มต้นที่ขนาด 12×12 มิลลิเมตร และมาตรฐานมอก. 107-2561 เริ่มต้นที่ขนาด 25×25 มิลลิเมตร และมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร
คุณสมบัติของเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย เหมาะกับงานโครงสร้างต่างๆ และสามารถประยุกต์ใช้ในงานทั่วไปได้
LIP CHANNEL STEEL เหล็กตัวซี
เหล็กตัวซี (C Light Lip Channel) มีหลากหลายชื่อเรียกไม่ว่าจะเป็น เหล็กรูปตัวซี แปตัวซี แปหลังคา แปซี หรือ แปโครงหลังคา เหล็กตัวซีจัดเป็นเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็นชนิดหนึ่ง ลักษณะคือ มีหน้าตัดเป็นรูปตัวซี (C) ผิวของเหล็กต้องเรียบ ไม่ขรุขระ ไร้รอยต่อ ซึ่งผลิตตามมาครฐานมอก.1228 – 2549 และมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร
เหล็กข้ออ้อย
SD30, SD40, SD50, มีความยาว 10 เมตร และ 12 เมตร ผิวของเหล็กเส้นจะมีลักษณะเป็นปล้องเพื่อเพิ่มแรงยึดเหนี่ยว ให้เหล็กกับคอนกรีตมากขึ้น เหมาะสำหรับงานก่อสร้างขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั่วไป เช่น เขื่อน สะพานและอาคารสูง
เหล็กเส้นกลม
เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน มีขนาดเส้นตรงยาว 10 หรือ 12 เมตร ผิวเรียบ ใช้สำหรับงานก่อสร้างขนาดกลางและเล็ก เช่น บ้านพักอาศัพ หรือ อาคารพาณิชย์